ทัวร์พุกามเมืองโบราณแห่งทะเลเจดีย์

myanmar-12

ทัวร์พม่าวันนี้นั้น จะพามารู้จักกับเมืองพุกาม ซึ่งเป็นเมืองเก่าแก่ตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 16 เป็นเมืองที่ติดอันดับแหล่งท่องเที่ยวทางด้านประวัติศาสตร์ที่สวยงามมากแห่งหนึ่งของประเทศพม่าค่ะ โดยเฉพาะความยิ่งใหญ่ของเจดีย์จำนวนมากกว่า 5,000 องค์ จนได้รับสมญาว่าเป็นเมืองแห่งเจดีย์สี่พันองค์ ซึ่งเป็นลักษณะที่บ่งบอกถึงความรุ่งเรืองของพุทธศาสนาในประเทศพม่าได้เป็นอย่างดี จึงถูกเรียกว่า เมืองพุกามเป็นอู่อริยธรรมของประเทศพม่า ฉะนั้นแล้วพุกามจึงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยว ไม่ว่าใครที่มาทัวร์พม่าก็จะต้องมาเยี่ยมชมค่ะ

อาณาจักรพุกามนั้นมีความเจริญสูงสุดในพุทธศตวรรษที่ 16 ถือได้ว่าเป็นยุคทองของอาณาจักรพุกาม เพราะกษัตริย์ในราชวงศ์นี้ล้วนมีความศรัทธาในศาสนาพุทธเป็นอย่างมาก กษัตริย์หลายพระองค์นิยมสร้างเจดีย์ เพื่อเป็นการเสริมสร้างสิริมงคลในรัชกาลของพระองค์จนทำให้เมืองพุกามขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งทะเลเจดีย์ 4000 องค์ ต่อมาอาณาจักรนี้ล่มสลายเพราะการบุกรุกเข้าทำลายของกองทัพมองโกล โดยสถานที่น่าเดินเล่นซื้อของในพุกามนี้ ชื่อว่าตลาดยองอูค่ะ

ตลาดยองอู นั้นถือว่าเป็นตลาดใหญ่ของเมืองเลย ซึ่งจะขายสินค้าทุกชนิด ตั้งแต่เครื่องอุปโภค บริโภค อาหารสด อาหารแห้ง เสื้อผ้า ของที่ระลึกพื้นเมือง เหมาะสำหรับเดินชมและเลือกซื้อของฝาก โดยเฉพาะเครื่องเขินที่พุกามถือว่าเป็นหนึ่ง เพราะฝีมือปราณีต และออกแบบสวยตามแบบฉบับของช่างชาวพม่า ใครที่มาทัวร์พม่าแล้วไม่ควรพลาดเด็ดขาดค่ะและที่สำคัญหากอยากจะซื้อของให้เตรียมดอลล่าร์แบงค์ใหม่ๆ ไว้ด้วยนะคะ เพราะที่พม่าน่ะ ไม่รับแบงค์เก่าค่ะ

ของใช้ทารกที่จำเป็นต้องมี

baby-07

การเลือกของใช้เป็นเรื่องละเอียดออ่อนที่คุณพ่อคุณแม่ต้องเอาใจใส่เป็นอย่างมาก เด็กทารกนั้นบอบบางมาก มีความต้องการของใช้ทารกที่ทำความสะอาดแบบเฉพาะเจาะจงมากๆ ด้วยค่ะ โดยของใช้ทารกที่ต้องเลือกเป็นพิเศษนั่นก็คือของใช้ที่ใช้ทำความสะอาดเด็กอ่อนจำพวกที่มีเคมีอย่างเช่น สบู่ แชมพู และ แป้งเด็กค่ะ

อย่างการเลือกสบู่นั้น ควรเลือกแบบที่อ่อนโยนต่อผิวเด็ก เพราะเด็กแรกเกิดจนถึงวัยหนึ่งปีนั้นโครงสร้างของผิวยังไม่แข็งแรงเหมือนกับผิวของผู้ใหญ่ ผิวชั้นนอกยังบอบบางมาก จึงควรเลือกสบู่สำหรับเด็กอ่อนโดยเฉพาะที่สามารถชำระล้างคราบเหงื่อ ในเด็กทารกนั้นยังไม่ค่อยมีคราบสกปรกมากนัก ดังนั้นคุณแม่ควรจะเลือกแบบที่อ่อนโยนเป็นหลักค่ะ ส่วนการเลือกแชมพูนั้นควรเน้นความอ่อนโยนต่อดวงตามากที่สุด และต้องมีฟองน้อยล้างออกง่าย เพราะฟองมากๆ มักจะมีประจุไฟฟ้าลบในโมเลกุล ซึ่งจะตกค้างเกาะติดกับผิวหนังและเส้นผม ทำให้ผมเสียหรือผิวหนังแห้งกร้านได้ ซึ่งจะระคายเคืองต่อดวงตามาก ควรเลือกแบบที่ป้องกันการระคายเคืองต่อหนังศีรษะและดวงตา ควรเป็นชนิดเหลวใส ไม่ตกตะกอน และผสมน้ำหอมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งไม่ควรจะใช้ครีมนวดเพราะเมื่อนำมาใช้กับทารกอาจมีโอกาสแพ้ได้ค่ะ

               สุดท้ายการเลือกแป้งเด็ก เมืองร้อนแบบประเทศไทยนั้น ทำให้ทารกอาจจะมีเหงื่อมากกว่าเด็กในแถบยุโรป อาจจะทำให้ทารกไม่สบายตา แป้งเด็กจึงถูกนำมาทางตัวให้เด็กสบายมากยิ่งขึ้น กลิ่นหอมอ่อน ๆ จะทำให้ลูกน้อยอารมณ์ดี แป้งสำหรับเด็กควรมีเนื้อละเอียดเพื่อดูดซับเหงื่อตามจุดอับต่าง ๆ ควรโรยแป้งแต่น้อยเพื่อไม่เกิดการฟุ้งกระจาย  ด้วยโมเลกุลเล็ก ๆ ของแป้งนั้น หากเข้าจมูกทารกอาจทำให้มีอาการแพ้ได้ค่ะ แป้งเด็กที่เหมาะสมจะต้องไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม และต้องมีความอ่อนโยนต่อผิวเด็กค่ะ

ธรรมเนียมปฏิบัติการเข้าศาลเจ้า

japan-07

หากใครได้มีโอกาสไปทัวร์ญี่ปุ่นมาแล้วคงทราบดีว่าประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีวัดวาอารามและศาลเจ้ากระจายอยู่ทั่วญี่ปุ่น ซึ่งศาลเจ้าที่เห็นเหล่านี้ล้วนเป็นศาลเจ้าที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ บางศาลเจ้ามีอายุยาวนานนับร้อยปีและเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านแถบนั้นเลยทีเดียว ดังนั้นเราในฐานะนักท่องเที่ยวที่ไปทัวร์ญี่ปุ่นจึงควรที่จะรู้ธรรมเนียมในการปฏิบัติต่อศาลเจ้าของชาวญี่ปุ่นเพื่อที่จะได้ไม่ทำผิดพลาดจนเป็นการลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของประเทศเขาครับ

               การเข้าศาลเจ้าของชาวญี่ปุ่นนั้นมีความหมายเพื่อขอขมาและแสดงความขอบคุณต่อธรรมชาติที่หล่อเลี้ยงชีวิตของคนเรารวมไปถึงเพื่อสักการะขอพรให้ลูกหลานมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ซึ่งข้อปฏิบัติเวลาเข้าศาลเจ้าเพื่อสักการะเทพเจ้าขอพรมีดังต่อไปนี้

แรกสุดเมื่อมาถึงหน้าศาลต่อหน้าเจ้าตรงซุ้มประตูโทริอิควรหยุดค้อมศีรษะทำความเคารพหนึ่งครั้งก่อนเดินผ่านเข้าไปเพื่อแสดงความเคารพ

ต่อมาในระหว่างการเดินเข้าศาลเจ้านั้นห้ามเดินกึ่งกลางทางเดินเพราะเชื่อกันว่าบริเวณกึ่งกลางนั้นเป็นทางผ่านของเทพเจ้าควรเดินหลบไปริมทางด้านซ้ายหรือขวา

เมื่อถึงตัวศาลเจ้าแล้วให้ล้างมือบ้วนปากด้วยน้ำจากบ่อน้ำหน้าศาลเจ้าเพื่อเป็นการชำระล้างดวงวิญญาณ บาป หรือสิ่งอัปมงคลที่ติดตัวเรามา โดยใช้มือขวาหยิบกระบวยขึ้นมา ตักน้ำให้เต็มและเริ่มล้างจากมือซ้าย อย่าเพิ่งเทน้ำจนหมด จากนั้นเปลี่ยนไปใช้มือซ้ายจับกระบวยเพื่อล้างมือขวาและใช้มือขวาจับกระบวยตักน้ำขึ้นมาเทครึ่งหนึ่งใส่มือเพิ่มเพื่อบ้วนปากจากนั้นตั้งกระบอกขึ้น ปล่อยให้น้ำที่เหลืออยู่ในกระบอกไหลลงมาตามด้ามจับตามลำดับครับ

ธรรมเนียมการปฏิบัติในการเข้าศาลเจ้าที่บอกมาทั้งหมดนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญที่นักท่องเที่ยวที่มาทัวร์ญี่ปุ่นและอยากเข้าศาลเจ้าทุกคนจำเป็นต้องพึงปฏิบัติตามครับมิเช่นนั้นแล้วอาจจะถูกมองว่าไม่สุภาพและไม่เคารพต่อสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ได้

พระราชวังซังกย็อง

korea-07

ผ่านพ้นไปแล้วกับสองพระราชวังโบราณทางประวัติศาสตร์ของประเทศเกาหลีที่มีนักท่องเที่ยวทัวร์เกาหลีนิยมไปเยี่ยมชมด้วยว่าความสวยงามและประวัติศาสตร์อันยาวนานเป็นอย่างไรกันบ้างครับอ่านแล้วคิดอยากจะไปทัวร์เกาหลีเพื่อไปชมปราสาทพระราชวังเหล่านี้กันแล้วหรือยังหากยังสองจิตสองใจอยู่ล่ะก็เราไปดูพระราชวังหลังที่ 3 ที่เป็นพระราชวังในตำนานของเกาหลีกันดีกว่าครับโดยพระราชวังหลังที่ 3 นี้มีชื่อว่าพระราชวังซังกย็อง

               พระราชวังซังกย็องหรือที่ชาวเกาหลีเรียกกันว่าซังกย็องกุงนั้นเป็นหนึ่งในห้าพระราชวังที่สำคัญที่สุดของของเกาหลี ปัจจุบันตั้งอยู่ในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เดิมทีเป็นพระราชวังฤดูร้อนของกษัตริย์ราชวงศ์โครยอจนกระทั่งพระเจ้าเซจงมหาราชมีดำริที่จะสร้างพระราชวังถวายแก่พระราชบิดา ต่อมาในรัชสมัยพระเจ้าซองจง โปรดให้บูรณะซ่อมแซมและขยายอาณาเขตของพระราชวังและระหว่างยุคล่าอาณานิคมของญี่ปุ่น พวกญี่ปุ่นได้สร้างสวนสัตว์ สวนสาธารณะ และพิพิธภัณฑ์ไว้ที่นี่ จนในปี พ.ศ. 2526 ทางรัฐบาลเกาหลีได้ย้ายสวนสัตว์และสวนสาธารณะออกไปจากพระราชวังซังกย็อกจนหมดสิ้นให้คงเหลือไว้แค่เพียงพิพิธภัณฑ์เท่านั้นส่วนจุดเด่นหรือเป็น landmark ของพระราชวังแห่งนี้ก็ได้แก่ประตูหลักของพระราชวังที่เรียกกันว่าฮงฮวามุนและสะพานอกช็องกโย

               ในแต่ละวันพระราชวังซังกย็อกแห่งนี้ล้วนคราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาทัวร์เกาหลีตั้งแต่เช้าจรดเย็นเพราะนอกจากจะเป็นสถานที่ที่สวยงามทางประวัติศาสตร์แล้วยังมีพิพิธภัณฑ์ให้ได้ศึกษาประวัติความเป็นมาต่างๆ ด้วย ดังนั้นหากใครอยากเรียนรู้ถึงประวัติศาสตร์ลึกๆ ของประเทศเกาหลี การมาเยี่ยมชมพระราชวังซังกย็อกนี้จึงเป็นสิ่งที่เหมาะสมยิ่งครับ

ร้านเช่าชุดไทยเพื่อนเจ้าสาว – ชุดไทย 4 ภาค

dress-05หากจะว่าไปแล้วชุดไทยสำหรับการแต่งงานก็ไม่ได้จำเพาะเจาะจงต้องเป็นชุดไทยพระราชนิยมหรือไทยประยุกต์  มีเจ้าสาวหลายๆคนกลับสวมชุดไทย 4 ภาค ซึ่งก็เก๋ไก๋ได้ใจไปอีกแบบ ซึ่งแน่นอนว่าร้านเช่าชุดไทยเพื่อนเจ้าสาว ของเราก็มีไว้บริการ  ไหนๆก็พูดถึงชุดไทยแบบ 4 ภาคแล้วก็มาทำความรู้จักกันเลยดีกว่า

·       การแต่งกายชุดไทยประจำภาคเหนือ

              มีภาษาพูดและภาษาเขียนเป็นของตนเอง หรือที่เรียกว่า คำเมืองจะใช้กันแพร่หลายในภาคเหนือตอนบน ส่วยภาคเหนือตอนล่างเคยอยู่ร่วมกับสุโขทัย อยุธยาทำให้ประเพณี และวัฒนธรรมมีลักษณะคล้ายกับภาคกลาง ภาษาพูดจะมีลักษณะช้าและนุ่มนวล เช่น อู้ (พูด) เจ้า (ค่ะ) แอ่ว (เที่ยว) กิ๊ดฮอด (คิดถึง) การแต่งกายภาคเหนือ ชาวพื้นเมืองจะแต่งกายตามเชื้อชาติโดยทั่วไป ลักษณะการแต่งกายของคนภาคเหนือการแต่งกาย  เป็นสิ่งสำคัญสิ่งหนึ่ง ที่บ่งบอกเอกลักษณ์ของคนแต่ละพื้นถิ่น สำหรับในเขตภาคเหนือหรือดินแดนล้านนาในอดีต ปัจจุบันการแต่งกายแบบพื้นเมืองได้รับความสนใจมากขึ้น แต่เนื่องจากในท้องถิ่นนี้มีผู้คนหลากหลายชาติพันธุ์อาศัยอยู่ เช่น ไทยวน ไทลื้อ ไทเขิน ไทใหญ่ และอิทธิพลจากละครโทรทัศน์ ทำให้การแต่งกายแบบพื้นเมืองมีความสับสนเกิดขึ้น ดังนั้นคณะทำงานทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม กลุ่มสถาบันอุดมศึกษาภาคเหนือ จึงได้ระบุข้อไม่ควรกระทำในการแต่งกายชุดพื้นเมือง ของ แม่ญิงล้านนาเอาไว้ว่า

                                       1.ไม่ควรใช้ผ้าโพกศีรษะ ในกรณีที่ไม่ใช่ชุดแบบไทลื้อ

                                       2. ไม่ควรเสียบดอกไม้ไหวจนเต็มศีรษะ

                                       3. ไม่ควรใช้ผ้าพาดบ่าลากหางยาว หรือคาดเข็มขัดทับ และผ้าพาดที่ประยุกต์มาจาก ผ้าตีนซิ่นและผ้า ตุงไม่ควรนำมาพาด

                                       4. ตัวซิ่นลายทางตั้งเป็นซิ่นแบบลาว ไม่ควรนำมาต่อกับตีนจกไทยวน

·       การแต่งกายชุดไทยประจำภาคอีสาน

              ภาษาภาคนี้สำเนียงคล้ายภาษาลาว ซึ่งเรามักจะเรียกว่าเป็นภาษา อีสานภาษาอีสานเช่น เว้า (พูด) แซบ (อร่อย) เคียด (โกรธ) นำ (ด้วย)การแต่งกายส่วนใหญ่ใช้ผ้าทอมือ ซึ่งทำจากเส้นใยธรรมชาติ เช่น ผ้าฝ้าย และผ้าไหมผ้าพื้นเมืองอีสาน ชาวอีสานถือว่าการทอผ้าเป็นกิจกรรมยามว่างหลังจากฤดูการทำนาหรือว่างจากงานประจำอื่นๆ ใต้ถุนบ้านแต่ละบ้านจะกางหูกทอผ้ากันแทบทุกครัวเรือน โดยผู้หญิงในวัยต่างๆ จะสืบทอดกันมาผ่านการจดจำและปฏิบัติจากวัยเด็กทั้งลวดลายสีสัน การย้อมและการทอ ผ้าที่ทอด้วยมือจะนำไปใช้ตัดเย็บทำเป็นเครื่องนุ่งห่ม หมอน ที่นอน ผ้าห่ม และการทอผ้ายังเป็นการเตรียมผ้าสำหรับการออกเรือนสำหรับหญิงวัยสาว ทั้งการเตรียมสำหรับตนเองและเจ้าบ่าว ทั้งยังเป็นการวัดถึงความเป็นกุลสตรี เป็นแม่เหย้าแม่เรือนของหญิงชาวอีสานอีกด้วย ผ้าที่ทอขึ้นจำแนกออกเป็น 2 ชนิด คือ

                                          1. ผ้าทอสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน จะเป็นผ้าพื้นไม่มีลวดลาย เพราะต้องการความทนทานจึงทอด้วยฝ้ายย้อมสีตามต้องการ

                                           2. ผ้าทอสำหรับโอกาสพิเศษ เช่น ใช้ในงานบุญประเพณีต่างๆ งานแต่งงาน งานฟ้อนรำ ผ้าที่ทอจึงมักมีลวดลายที่สวยงามวิจิตรพิสดาร มีหลากหลายสีสัน

ประเพณีที่คู่กันมากับการทอผ้าคือการลงข่วง โดยบรรดาสาวๆ ในหมู่บ้านจะพากันมารวมกลุ่มก่อกองไฟ บ้างก็สาวไหม บ้างก็ปั่นฝ้าย กรอฝ้าย ฝ่ายชายก็ถือโอกาสมาเกี้ยวพาราสีและนั่งคุยเป็นเพื่อน บางครั้งก็มีการนำดนตรีพื้นบ้านอย่างพิณ แคน โหวต มาบรรเลงโต้ตอบกัน เนื่องจากอีสานมีชนอยู่หลายกลุ่มวัฒนธรรม การผลิตผ้าพื้นเมืองจึงแตกต่างกันไปตามกลุ่มวัฒนธรรม

                  กลุ่มอีสานใต้  คือ  กลุ่มคนไทยเชื้อสายเขมรที่กระจัดกระจายตั้งถิ่นฐานอยู่ในแถบจังหวัดสุรินทร์ ศรีสะเกษและบุรีรัมย์ เป็นกลุ่มที่มีการทอผ้าที่มีเอกลักษณ์โดยเฉพาะของตนเอง    มีสีสันทีแตกต่างจากกลุ่มไทยลาว

·       การแต่งกายชุดไทยประจำภาคกลาง

              ภาษาภาคกลาง ส่วนใหญ่ใช้ภาษาไทยกลางที่เป็นภาษาราชการ ยกเว้นคนบางกลุ่มที่มีบรรพบุรุษเป็นชาวจีน ชาวมอญ หรือชาวลาวพวน ซึ่งมีสำเนียงภาษาที่แตกต่างออกไป

การแต่งกายภาคกลาง การแต่งกายในชีวิตประจำวันทั่วไป ชายนุ่งกางเกงครึ่งน่อง สวมเสื้อแขนสั้น คาดผ้าขาวม้า ส่วนหญิง จะนุ่งซิ่นยาว สวมเสื้อแขนสั้นหรือยาว

ลักษณะการแต่งกาย

              ผู้ชาย สมัยก่อนการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง นิยมสวมใส่โจงกระเบนสวมเสื้อสีขาว ติดกระดุม 5 เม็ด ที่เรียกว่า “ราชประแตน” ไว้ผมสั้นข้างๆตัดเกรียนถึงหนังศีรษะข้างบนหวีแสกกลาง

              ผู้หญิง สมัยก่อนการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง นิยมสวมใส่ผ้าซิ่นยาวครึ่งแข้ง ห่มสไบเฉียงตามสมัยอยุธยา ทรงผมเกล้าเป็นมวย และสวมใส่เครื่องประดับเพื่อความสวยงาม

·       การแต่งกายชุดไทยประจำภาคใต้

               ภาคใต้ มีภาษาพูดประจำถิ่นที่ห้วนๆ สั้นๆ เป็นเอกลักษณ์ เรียกว่า ภาษาใต้หรือแหลงใต้ส่วนกลุ่มคนที่อยู่แถบชายแดนไทย-มาเลเซีย นิยมพูด ภาษายาวี หรือภาษามาเลเซีย

ตัวอย่างภาษาพูดภาคใต้ เช่น แหลง (พูด) หร๋อย (อร่อย) ทำไหร๋ (ทำอะไร) บางท้องถิ่นใช้ภาษายาวี เพราะนับถือศาสนาอิสลาม  การแต่งกายภาคใต้ ภาคนี้มีการแต่งกายต่างกันตามเชื้อชาติ ถ้าเชื้อสายจีนจะแต่งแบบจีน ถ้าเป็นชาวมุสลิม ก็จะแต่งคล้ายกับชาวมาเลเซีย  ปัจจุบันแหล่งทำผ้าแบบดั้งเดิมนั้นเกือบจะสูญหายไป คงพบได้เฉพาะ 4 แหล่งเท่านั้นคือ ที่ตำบลพุมเรี้ยง จังหวัดสุราษฎร์ธานี , อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช , เกาะยอ จังหวัดสงขลา  และตำบลนาหมื่นศรี จังหวัดตรังการแต่งกายของชาวใต้

การแต่งกายนั้นแตกต่างกันในการใช้วัสดุ และรูปแบบโดยมีเอกลักษณ์ไปตามเชื้อชาติ ของผู้คนอันหลากหลายที่เข้ามาอยู่อาศัยในดินแดนอันเก่าแก่แห่งนี้พอจำแนกเป็น

กลุ่มใหญ่ๆ ได้ดังนี้

1. กลุ่มเชื้อสายจีน มาลายู เรียกชนกลุ่มนี้ว่ายะหยา หรือ ยอนย่า เป็นกลุ่มชาวจีน เชื้อสายฮกเกี๊ยนที่มาสมรสกับชนพื้นเมืองเชื้อสายมาลายู ชาวยะหยาจึงมีการแต่งกายอันสวยงาม ที่ผสมผสาน รูปแบบของชาวจีนและมาลายูเข้าด้วยกันอย่างงดงาม ฝ่ายหญิงใส่เสื้อฉลุลายดอกไม้ รอบคอ,เอว และปลายแขนอย่างงดงาม นิยมนุ่งผ้าซิ่นปาเต๊ะ ฝ่ายชายยังคงแต่งกาย คล้ายรูปแบบจีนดั้งเดิมอยู่

2. กลุ่มชาวไทยมุสลิม ชนดั้งเดิม ของดินแดนนี้นับถือศาสนาอิสลาม และมี เชื้อสายมาลายู ยังคงแต่งกายตามประเพณี อันเก่าแก่ฝ่ายหญิงมีผ้าคลุมศีรษะ ใส่เสื้อผ้ามัสลิน หรือลูกไม้ตัวยาวแบบมลายูนุ่งซิ่นปาเต๊ะ หรือ ซิ่นทอแบบมาลายู ฝ่ายชายใส่เสื้อคอตั้ง สวมกางเกงขายาว และมีผ้าโสร่งผืนสั้น ที่เรียกว่า ผ้าซองเก็ต พันรอบเอวถ้าอยู่ บ้านหรือลำลองจะใส่โสร่ง ลายตารางทอด้วยฝ้าย และสวมหมวกถักหรือ เย็บด้วยผ้ากำมะหยี่

3. กลุ่มชาวไทยพุทธ ชนพื้นบ้าน แต่งกายคล้ายชาวไทยภาคกลาง ฝ่ายหญิงนิยมนุ่งโจงกระเบน หรือ ผ้าซิ่นด้วย ผ้ายกอันสวยงาม ใส่เสื้อสีอ่อนคอกลม แขนสามส่วน ส่วนฝ่ายชายนุ่งกางเกงชาวเล หรือ โจงกระเบนเช่นกัน สวมเสื้อผ้าฝ้ายและ มีผ้าขาวม้าผูกเอว หรือพาดบ่าเวลาออกนอกบ้านหรือไปงานพิธี

เว็บไซต์หาข้อมูลทัวร์ยุโรป

europe-016

ในประเทศไทยเราในระยะหลังๆมักจะเห็นเว็บไซต์ท่องเที่ยวมากขึ้นนะครับโดยเฉพาะการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศมีการนำเสนอทัวร์ยุโรปแบบไปเที่ยวหลายๆวันโดยมีตัวแทนขายทัวร์ที่รับงานมาจากบริษัทอีกทอดหนึ่งมาประกาศขายกันเยอะมากโดยเมื่อวันก่อนผมเข้าไปที่เว็บไซต์ประกาศฟรีพบว่ามีการโพสต์ขายทัวร์ยุโรปเยอะมากยิ่งช่วงที่มีหิมะตกอากาศหนาวเย็นสุดๆเป็นเรื่องปกตินะครับเมืองร้อยอย่างเราอย่างน้อยอย่างเห็นหิมะตกสักครั้งหนึ่งก็มีความภาคภูมิใจแล้วแต่ผมยังนึกใจใจว่าเว็บไซต์ที่มีคนลงประกาศนี่มีความน่าเชื่อถือหรือเปล่าเค้าได้มีการขอเอกสารของคนที่โพสต์หรือเปล่าเพราะมีเหมือนกันนะครับพวกมิจฉาชีพแอบอ้างขายทัวร์ที่ไม่มีบริษัทที่เป็นตัวตนดังนั้นเราเองในฐานะนักท่องเที่ยวก็ควรระวังให้มากๆทางที่ดีที่สุดหาเว็บไซต์ของบริษัททัวร์ตรงๆดีกว่าเพื่อที่ว่าจะได้ชัวร์ๆไม่ต้องมานั่งคิดมากเมื่อซื้อทัวร์ไปเรียบร้อยแล้ว

               สำหรับเว็บไซต์ใหญ่ๆของเมืองไทยก็มีให้เราสามารถเข้าไปอ่านไม่ขอบอกชื่อเว็บไซต์ล่ะกันนะครับเพราะน่าจะรู้ดีกันอยู่แล้วค้นหาจากgoogleก็เจอครับเดียวหากบอกไปจะหาว่าเป็นการโปรโมทซึ่งไม่เหมาะสมเพราะเมื่อกล่าวแล้วก็ต้องยกมาให้หมดทุกเว็บไซต์  หากท่านหาจากเว็บไซต์มากพอแล้วลองไปหาจากหนังสือท่องเที่ยวดูบ้างก็ได้นะครับผมเห็นมีแนะนำทัวยุโรปมากมายเช่นกันและมีโฆษณาแบบเต็มหน้ากระดาษกันเลยทีเดียวปัจจุบันคนก็เริ่มที่จะซื้อหนังสือมาอ่านคนลงโฆษณาก็เริ่มที่จะให้ความสำคัญกับหนังสือมายิ่งขึ้นเพราคู่แข่งน้อยนั่นเอง

ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ ดินแดนแห่งความฝัน

hongkong-035

ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่เมื่อมาทัวร์ฮ่องกงไม่ควรพลาดเด็ดขาดเลย โดย Main หลักของฮ่องกงดิสนีย์แลนด์คือ กริชลีย์ กัลช เป็นธีม ออกแนวป่าไม้ภูเขา อย่างเช่น Runaway Mine Cars เทือกขาบิ๊กกริซลีย์ที่จะให้คุณได้ผจญภัยแบบบรรยากาศป่าเขาที่น่าตื่นตาตื่นใจ เครื่องเล่นจะออกแนวผจญภัยสนุก ๆ พร้อมทั้งโชว์สนุก ๆ ตระการตาด้วยเหล่าบรรดา หมีกริซลีย์ที่จะมามอบความสนุก ความประทับใจให้กับคุณ

อีกธีมนึงที่ฮอตไม่แพ้กัน นั่นก็คือทอยสตอรี่แลนด์ มีเฉพาะในฮ่องกงเท่านั้น คุณจะได้พบกับเหล่ามาสคอสตัวการตูนชื่อดังจากเรื่องทอยสตอรี่ ของทุกอย่างทุกชิ้นจำลองจากภาพยนตร์ทั้งหมด เหล่าสาวกทอยสตอรี่พลาดไม่ได้เด็ดขาดเลย นอกจากนี้แล้วยังมีในโซนของเครื่องเล่นระดับโลก และโซนต่าง ๆ อีกกว่า 10 โซนให้คุณได้สนุกย้อนวัยอีกครั้ง เรียกว่าเที่ยววันเดียวไม่หมดแน่นอนค่ะ แนะนำให้จัดทัวร์ฮ่องกงแบบค้างที่ดิสนี่ย์ฮ่องกงเลย เพราะที่นี่มีโรงแรมให้เข้าพัก ซึ่งตกแต่งได้น่ารักตามสไตล์ดีสนี่ย์เลยค่ะ แม้แต่พนักงาน คนเสริฟ์อาหารก็แต่งตัวเป็นตัวการ์ตูนดิสนี่ย์ด้วยเช่นกัน

ฉะนั้นแล้วหาวันหยุดยาว ๆ อย่างวันปีใหม่ที่จะถึงนี้ ลองหาทัวร์ฮ่องกงดิสนี่ย์ดูนะคะ เพราะตอนนี้ก็เริ่มมีบริษัททัวร์หลายเจ้าเริ่มทำโปรโมชั่นสิ้นปี แต่หากว่าไปกับทัวร์ กลัวจะเที่ยวได้ไม่เต็มที่ละก็ ลองวางแผนจัดทัวร์ฮ่องกงดิสนี่ย์ด้วยตัวเองดูค่ะ อาจจะมา 2 วัน 3 คืน เพื่อให้ได้เที่ยวชมครบทุกโซน จองโรงแรมในดิสนี่ย์เลยเพราะความสะดวก แต่อาจจะต้องจองล่วงหน้ากันสักหน่อยเผื่อเต็ม วิธีเดินทางมาที่ดิสนี่ย์ฮ่องกงก็ไม่ยากค่ะนั่ง MRT จากสถานี Tsim sha Tsui จากนั้นไปเปลี่ยนขบวนสายสีส้ม ที่สถานี Lai King แล้วไปต่อ Sunny Bay เพื่อเปลี่ยนขบวนรถเป็นสาย Disney ค่ะ

ดนตรี บันเทิง ชุมชนข่าวสาร